การถูกทอดทิ้งของผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุเป็นช่วงวัยตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป ก็จะถือว่าเข้าสู่วัยผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวเนื่องจากสภาพร่างกายที่ร่วงโรยความแข็งแรงที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน และด้วยสภาพแต่ละคนอาจจะมีความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันไปด้วย บางคนอาจจะยังสามารถช่วยเหลือตัวเองในเรื่องต่างๆหรือทำกิจกรรมต่างๆได้ด้วยตัวเองอยู่ หรือในบางคนในช่วงวัยนี้ความแข็งแรงางด้านร่างกายเสื่อมลงอย่างรวดเร็วก็อาจจะทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้หรืออาจจะช่วยเหลือตัวเองได้น้อย จึงทำให้ในช่วงวัยนี้นั้นก็อาจจะถูกมองว่าเป็นช่วงวัยที่เป็นภาระสำหรับครอบครัวและลูกหลานนั่นเอง

เมื่อถูกมองว่าเป็นภาระของครอบครัวและลูกหลานนั้นทำให้เกิดการทอดทิ้งผู้สูงอายุขึ้นโดยการทอดทิ้งอาจจะไม่ได้เป็นการทอดทิ้งแบบทั้งหมด แต่เป็นการปัดภาระในการดูแลของครอบครัวและให้ทางสถานสงเคราะห์หรือสถานที่รับเลี้ยงคนชราเป็นคนดูแลแทน แต่ในส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นครอบครัวอาจจะยังเป็นคนดูแลและยังคงมาเยี่ยมผู้สูงอายุในบางครัวบางคราวด้วย แต่ในอีกรณีหนึ่งคือการปัดภาระทั้งหมดของครอบครัวและส่งผู้สูงอายุไปดูภายใต้การดูแลของสถานสงเคราะห์หรือบ้านพักคนชรา ถือว่าการกระทำเช่นนี้นั้นเป็นสิ่งที่ค่อยข้างจะเป็นภาระของสังคมด้วย ทำให้คนชราที่ต้องถูกทอดทิ้งทั้งในสถานสงเคราะห์หรือบ้านพักคนชรานั้นมีความรู้สึกเสียใจที่ตนเองนั้นถูกทอดทิ้ง โดยส่วนใหญ่แล้วแม้จะมาด้วยความเต็มใจเนื่องจากการที่จะมาอยู่บ้านพักคนชราได้นั้นจะต้องมีความยินยอมทั้งในครอบครัวและตัวผู้สูงอายุเองด้วย 

โดยส่วนใหญ่ผู้สูงอายุกล่าวว่าที่ตนต้องมาอยู่ในบ้านพักคนชรานั้นเป็นเพราะว่าตนเองเป็นภาระของครอบครัวหรือลูกหลานเนื่องจากลูกหรือคนที่ดูแลนั้นจะต้องทำงานและไม่สามารถมีเวลาเพียงพอที่จะดูแลผู้สูงอายุได้นั่นเอง โดยผู้สูงอายุส่วนใหญ่ก็มักจะเข้าใจและยอมรับในจุดนี้ได้ แต่ในบางครั้งเค้าก็รู้สึกเสียใจที่บั้นปลายชีวิตของตนเองนั้นไม่ได้อยู่กับครอบครัวและลูกหลานนั่นเอง และมีผู้สูงอายุบางรายเมื่อได้เข้ามาอยู่ในบ้านพักคนชราแล้วมีการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนใหญ่จะคิดว่าตนเองนั้นไม่มีค่าพอที่จะให้ครอบครัวดูแลได้นั่นเอง

ในปัจจุบันก็ยังคงถือเป็นภาวะสังคมที่ไม่ค่อยจะดีนักเพราะยังคงมีการทอดทิ้งผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้สูงอายุเหล่านี้นั้นจะต้องมาอยู่ในที่ที่ไกลบ้านและครอบครัวและส่วนใหญ่ยังคงคิดว่าตัวเองนั้นไร้ค่าเสมอ ดังนั้นแล้วครอบครัวจึงควรให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ ถึงแม้เค้าจะไม่แข็งแรงหรือไม่สามารถช่วยตัวเองๆได้มาก ครอบครัวควรจะช่วยกันในการดูแลผู้สูงอายุ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้บั้นปลายชีวิตของผู้สูงอายุนั้นสามารถมีความสุขได้นั่นเอง และจริงๆแล้วผู้สูงอายุก็ไม่ได้เป็นภาระมากมายขนาดนั้นถ้าครอบครัวลูกหลานเรียนรู้แล้วต่อสู้กับสิ่งต่างๆ เชื่อว่าก็สามารถดำเนินชีวิตและแบ่งเวลามาดูผู้สูงอายุได้นั่นเองและที่สำคัญจะได้ไม่เป็นภาระของสังคมด้วย

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บพนันออนไลน์ แจกเครดิตฟรี ไม่ต้องฝาก 2020