ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงอย่างจะย้ายประเทศ

สำหรับที่ประเทญญี่ปุ่นก็ได้ขึ้นชื่ออยู่เหมือนกันในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลที่สูงมากหากว่าไม่มีประกันอันนี้คือซวยแน่นอนเพราะฉะนั้นมันก็เลยเป็นนโยบายการเงินของประเทศญี่ปุ่นที่รัฐบาลบอกว่าคุณจะต้องเข้าสู่ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติเท่านั้นภายใต้กฎหมายของญี่ปุ่น

เพื่อที่รัฐบาลจะสามารถแบ่งเบาภาระคือใช้จ่ายของเราทุกคนได้แม้ว่าเราจะไปเรียนหรือไปอะไรก็แล้วแต่ก็ต้องไปสมัครหรือว่าต้องไปลงทะเบียนเข้าสู่ระบบนี้อีกที่นึงที่น่าสนใจใกล้กับญี่ปุ่นก็คือ เกาหลีใต้ ประชาชนทุกกลุ่มในเกาหลีใต้สามารถเข้าถึงประกันพื้นฐานได้อย่างเท่าเทียม

แม้ว่าจะเป็นการตรวจโรคทั่วไปการรักษาการฉุกเฉินยารักษาโรคทันตกรรมถือว่าเป็นสิทธิภายใต้ที่เรียกว่า “ ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติขณะที่ประกันสาธารณสุขของเขาก็มีการผลักดันด้วยว่าใครที่สามารถจ่ายได้ก็อาจจะไปซื้อประกันของเอกชนเพิ่มเติมและค่าใช้จ่ายที่มันอาจจะเพิ่มเติมมานั้นเราก็จ่ายสมทบเพิ่มไปประมาณอัตราที่34%ของค่าใช้จ่ายเติมทั้งหมดก็จะไม่ต้องจ่ายเติมเปอร์เซ็นต์

ส่วนในปี2018ที่ ออสเตรเลีย เขามีวิธีการจัดสรรงบประมาณเพื่อสาธารณสุขมากถึง9.3%ของGDPของทั่งประเทศถือว่าสูงมากแล้วก็เป็นอัตราที่เขาต้องการดูแลช่วยเหลือและก็แบ่งเบาภาระบุคคลในประชาชนที่อยู่ในประเทศซึ่งออสเตรเลียเขามีระบบสาธารณสุขที่เป็นระบบไฮบริดคือระบบแบบผสมนั่นเอง

ซึ่งจะผสมระหว่างอะไรอย่างแรกเลยก็คือประกันสุขภาพรัฐบาลจะเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณแล้วอีกส่วนหนึ่งก็คือสนับสนุนให้ประชาชนซื้อประกันของเอกชนและองค์กรไม่แสวงผลกำไรโดยประกันสุขภาพของเอกชนจะครอบคุ้มถึงค่าบริการและก็ค่ารถฉุกเฉินไปจนถึงค่าทันตกรรม

นอกจากนี้ที่ประเทศ เนเธอร์แลนด์อันนี้ก็น่าสนใจเช่นเดียวกันกลุ่มในประเทศที่อยู่ในยุโรปค่อนข้างที่จะมีรัฐสวัสดิการที่ปังมากๆด้วยการที่เข้าจ่ายภาษีที่ค่อนข้างสูงที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ทุกคนจะต้องซื้อ “ ประกันสุขภาพขั้นพื้นฐานจากเอกชน “ ฟังดูแบบนี้เหมือนจะแพงหรือเปล่า

โดยทั้งประเทศได้รับการควบคุ้มแล้วก็ของเอกชนที่กว่ามานั้นบริษัทมีทั้งหมดสี่เจ้าและเป็นสี่เจ้าที่รับผิดชอบผู้ประกันตน90%ของผู้ประกันตนของคนทั้งประเทศแต่พวกเขาจะดำเนินการโดยในฐานะ “ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร “ แล้วโรงพยาบาลเกือบทั้งประเทศของเนเธอน์แลนด์ก็เป็นโรงพยาบาลที่แบบไม่แสวงผลกำไรเช่นเดียวกัน

ชาวเนเธอน์แลนด์พลเมืองของพวกเขาจะต้องจ่ายประกันสุขภาพอยู่ที่เดือนละประมาณ3,500 – 4,500 บาท ฟังดูแล้วแทบจะไม่ต่างจากสิ่งที่พวกเราหลายคนในประเทศไทยต้องจ่ายอยู่ในปัจจุบันด้วยซ้ำถ้าคุณซื้อประกันสุขภาพจากเอกชนแต่เมื่อเทียบกับค่าครองชีพแล้วและรายได้แล้วค่อนข้างที่จะแตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    หวยดี