ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯชี้แจงคำสั่งร้านขายอาหาร

ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯชี้แจงคำสั่งร้านขายอาหารเปิดขายได้แต่ให้ซื้อกลับบ้านเท่านั้นห้ามนั่งกินที่ร้าน

      มีที่เมื่อวันที่ 21 เดือนมีนาคมปีพ.ศ. 2563  ท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพฯได้ออกมาประกาศให้ประชาชนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลทราบว่าจะมีการปิดห้างสรรพสินค้ารวมถึงสถานบันเทิงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆและที่สำคัญตลาดและร้านอาหารก็จะถูกปิดเป็นการชั่วคราวด้วยเพื่อเป็นการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่านั้น 

วันนี้ทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่ายังมีการเปิดให้บริการตามปกติบางแห่งเช่นในห้างสรรพสินค้าก็จะเปิดให้บริการของกลุ่มธนาคารรวมถึง จุดที่ขายอาหารสดก็ยังเปิดให้บริการตามปกติได้ส่วนร้านค้าที่ขายเป็นอาหารไม่ว่าจะเป็นร้านแผงลอยหรือเปิดเป็นร้านขายอาหารเองที่บ้านหรือจะเป็นพวกรถเข็นจะต้องมีการเปิดขายได้เฉพาะการซื้อแล้วนำกลับไปทานที่บ้านเท่านั้นไม่อนุญาตให้ร้านค้าต่างๆเปิดขายแล้วให้ลูกค้านั่งกินภายในร้านได้

และสำหรับหากร้านไหนที่ต้องการอยากจะให้ลูกค้านั่งกินอาหารภายในร้านร้านนั้นจะต้องมีการเปิดสถานที่ในการนั่งทานอาหารเป็นแบบโล่งรวมถึงจะต้องมีการจัดโต๊ะให้เว้นห่างกันโต๊ะละ 1 เมตรเพื่อที่คนที่กินจะได้ไม่นั่งอยู่ใกล้กันมากเกินไปเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

         จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าที่นับวันยิ่งมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆหลายฝ่ายจึงได้มีการประชุมและหารือกันโดยผลสรุปก็คือในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลนั้นในช่วงนี้จะมีการปิดการให้บริการสถานที่ต่างๆที่เห็นแล้วว่าจะเป็นแหล่งที่ประชาชนจะไปรวมตัวกันมากๆไม่ว่าจะเป็นสถานบันเทิง  โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารเป็นต้นซึ่งข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นนี้จะต้องปิดทำการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 22 เดือนมีนาคมแล้ว

จะปิดยาวไปจนถึงวันที่ 12 เดือนเมษายนปีพศ 2563 แล้วถึงจะมาดูอีกครั้งหนึ่งว่าในช่วงเวลาดังกล่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสามารถควบคุมได้แล้วหรือไม่แต่ถ้าหากยังพบปัญหาการแพร่ระบาดสูงอย่างต่อเนื่องก็อาจจะต้องมีมาตรการอื่นออกมาแก้ไขต่อไปทั้งนี้เหตุผลที่ต้องการปิดสถานที่ต่างๆไม่ให้ประชาชนไปรวมตัวกันมากนักก็เพื่อลดความเสี่ยงที่จะนำโรคไปติดต่อกันซึ่งหลังจากนี้ต้องดูว่ามาตรการนี้จะสามารถลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Corona ได้

หรือไม่และที่สำคัญประชาชนแต่ละคนให้ความร่วมมือมากแค่ไหนในการที่จะช่วยกันลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดเชื้อโรคในครั้งนี้  ก็มีหลายคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปิดสถานที่ดังกล่าวเหล่านี้ว่าจะส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของอาหารการกินแต่เท่าที่จะดูจากข้อมูลเบื้องต้นแล้วก็ยังมีการเปิดให้ขายของได้ตามปกติเพียงแต่ว่างดในเรื่องของการไปทานอาหารที่ร้านเพราะฉะนั้นก็ไม่น่าจะเดือดร้อนกับประชาชนมากนักในเรื่องการหาของกินคงต้องรอดูกันต่อไปว่าหลังจากที่มีการปิดสถานที่บางแห่งแล้วผลของการแพร่ระบาดลดลงหรือไม่