อย่าฝากชีวิตไว้ที่ใคร แม้จะรักกันมากแค่ไหนก็ตาม

จากเหตุการณ์ที่มีการประกาศให้มีมาตรการต่างที่ป้องกันการแพร่ระบาดของไข้ไวรัสนั้น ด้วยการที่ให้ประชาชนอยู่กับบ้านกันมากขึ้นเพื่อลดการสัญจรไปมาก จนล่าสุดที่ประเทศจีนกลายเป็นข่าวใหญ่โตว่า หลังจากมาตรการที่ต้องการให้คนอยู่กันที่บ้านมากกขึ้น

กับมีอัตราการหย่าร้างของคู่สามีภรรยากันมากขึ้นกว่าปรกติ และสาเหตุส่วนใหญ่ที่มีการสอบถามกันนั้น ปรากฎว่าเพราะเค้าและเธอเจอหน้ากันบ่อยจนทำให้เกิดความไม่ลงตัวกัน ซึ่งแต่เดิมนั้นธรรมชาติชาวจีน คู่สามีภรรยาเองนั้นต่างพบเจอกันเพียงแค่ช่วงเช้าและเย็น ก่อนและหลังการทำงานเท่านั้น

แต่พอได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน จึงเกิดความไม่เข้าใจและเห็นธาตุแท้นิสัยกันมากขึ้น จึงทำให้ทั้งคู่ไปกันต่อในฐานะชีวิตคู่ไม่ได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกจริงๆ  จริงอยู่ที่ความรักทำให้คนสอนคนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน แต่ความรักไม่ใช่การเอาชีวิตฝากไว้ที่อีกคน และไม่ใช่การโยนทุกสิ่งทุกอย่างให้อีกคนต้องรับผิดชอบทั้งหมด

โดยที่ไม่เคยคิดที่จะถามว่าเค้าโอเคหรือไม่กับความสมัครใจในครั้งนี้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น มันไม่ความรัก แต่มันเป็นเพียงแค่หาใครสักคนมารับผิดชอบกันมากกว่า และการที่เราไม่ได้ฝากชีวิตไว้ที่ใคร ก็ไม่ได้หมายความว่าพอมีปัญหา หรือมีเรื่องไม่สบายใจ เดือดร้อน เราจะต้องจัดการด้วยตัวคนเดียวหรือต้องพึ่งพาตัวเองเสมอไป

เพราะข้อดีของความรักเองนั้น มันอยู่ตรงนี้ เวลาใดก็ตามที่เราเจอปัญหา เรายังมีคนอีกคนคอยอยู่เคียงข้างให้กำลังใจ และช่วยเหลือให้คำปรึกษากับเราตลอดเวลา แล้วคอยช่วยกันเพื่อให้ผ่านความยากลำบากนั้นไปด้วยกัน

ดังนั้นการมีความรักก็ไม่จำเป็นต้องฝากชีวิตไว้ที่ใคร เพียงแต่รู้จักเรียนรู้กับความรัก และไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน และไม่โยนความรับผิดชอบหรือทุกสิ่งอย่างให้กับอีกฝ่าย โดยที่ตัวเองไม่เคยคิดที่จะทำอะไรเพื่อตัวเอง หรือซ้ำร้ายที่สุดไม่เคยคิดที่จะทำอะไรให้คนรักเลย เพราะการกระทำเช่นนี้ คือไม่ใช่ความรัก แต่เค้าเรียกว่าความเห็นการตัว

ที่มีอยู่ในจิตใต้สำนึกของมนุษย์ เราอาจจะเห็นหลายๆคู่ที่เค้าไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ และก็เห็นอีกหลายคู่ที่รักกันจนแก่เฒ่า เพราะนั่นคือการใช้ชีวิตแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ปรับเปลี่ยนความรักให้เป็นกำลังใจและการพึ่งพากันและกัน ไม่ใช่ใช้ความรักเพื่อที่ตัวเองจะไม่ต้องทำอะไรหรือยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง เพราะนั่นคุณจะไม่มีความรักที่แท้จริงเลย

ข่าวนายกหมึกตกเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับการตายอดีตภรรยา

ในทันทีที่ทางครอบครัวของผู้ตายได้ทราบข่าวว่า นางสาววีรญาภา งามวิลัย ได้ถูกยิงเสียชีวิตโดยที่ถูกมือปืนนั้นยิงโดยชื่อของนายกหมึกอดีตสามีคนที่สองของผู้ที่เสียชีวิตก้ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยทันทีและเมื่อตำรวจได้ไปตรวจสอบก็พบว่า นายกหมึกนั้นได้หนีไปแล้วจากนั้นทีมงานก็ได้ไปพบกับแม่และทางด้านของน้องชาย นางสาววีรญาภา งามวิลัย

ซึ่งได้อยู่ที่จังหวัดสระบุรี ยังคงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทางคุณแม่ของนางสาววีรญาภานั้นยังคงยอดรับไม่ได้จากการที่จากไปอย่างกระทันหันของลูกสาวซึ่งก็ได้ถูกมือปืนฆ่าอย่างโหดเฮียมและเมื่อได้ถามถึงปมความรักที่มันอาจจะกลายมาเป็นปมสังหารด้านแม่ของผู้ที่ได้เสียชีวิตก็ได้ค่อยๆอธิบายถึงลูกเขยทีละคนด้านแม่ของผู้ที่ได้เสียชีวิตนั้นได้สงสัยคนร้ายอาจจะเป็นอดีตลูกเขยของคนที่2 ซึ่งคือ นายกหมึก ซึ่งได้เป็นคนอารมณ์ค่อนข้างที่จะรุนแรง

และในช่วงที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก็มักจะชอบทะเลาะกันกับลูกสาวกันอยู่บ่อยครั้งขณะที่น้องชายกลับปักใจเชื่อในทันทีว่าการสังหารของพี่สาวอย่างโหดเฮียมจะต้องเป็นฝีมือของนายกหมึกอย่างแน่นอนคนในครอบครัวต่างก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่านายาหมึกอดีตสามีคนที่2ของผู้ที่เสียชีวิตทางด้านตำรวจจึงได้ตรวจสอบจากนั้นก็ได้พบความผิดปกติของผู้ชายคนนี้ในทันทีและเมื่อได้ตรวจก็ได้พบว่าญาติของนายกหมึกที่ได้อยู่ในอำเภอมหาราชล่าสุดได้มีการเข้าไปลงใบบันทึกประจำวัน

เอาไว้ที่โรงพักนั่นก็แสดงว่าน้องชายด้านของนายกหมึกก็ได้สงสัยในพฤติกรรมในตัวของพี่ชายเช่นกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตามรอยกันต่อไปเมื่อไม่นานก็ได้มองเห็นเส้นทางของการหลบหนีของนายกหมึกได้อย่างชัดเจนตอนนี้ทางตำรวจได้ทราบเบาะแสของนายกหมึกแล้วอีกไม่นานก็คือจะได้ตัวจากนั้นเราก็คงจะได้รู้คำตอบแล้วว่า

การสังหารอดีตภรรยาเก่าเป็นฝีมือของเขาหรือไม่คำพูดที่ได้มีการปกปิดมันไม่เป็นผลเมื่อได้เจอเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กดดันกลับและก็ได้ทราบว่านายกหมึกนั้นน้องชายของตนเองได้พาหลบหนีไปอยู่ที่ชายแดนที่ติดๆกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้านที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรีจากนั้นทางการด้านชุดปฏิบัติการกองปราบประมาณตอนเที่ยงคืนก็ได้เข้าร่วมกันได้ทำการปิดล้อม

เพื่อที่จะเข้าทำการจับกุมตัวจากการที่จะเข้าไปจับกุมตัวนายกหมึกนั้นน้องชายก็ได้พาไปดูรถที่นายกหมึกนั้นได้ใช้ทำการหลบหนีและก็พาไปดูที่นายกหมึกนั้นอาศัยอยู่ปรากฏว่าพบอยู่ในไร่ในสวนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้และยังต้องเดินเท้าเข้าไปอีกจนในที่สุดก็สามารถจับกุมตัวนายกหมึกได้

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  dewabet

มีคำสั่งเปิดศูนย์ซ่อมมือถือในห้างสรรพสินค้า

มีคำสั่งเปิดศูนย์ซ่อมมือถือในห้างสรรพสินค้าเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่หาที่ซ่อมมือถือไม่ได้

     จากที่มีคำสั่งประกาศออกมาเกี่ยวกับการปิดสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า   สถานบันเทิง ร้านอาหาร ตลาด เรียกได้ว่าปิดทุกที่ที่จะเป็นแหล่งที่ประชาชนมักจะไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่นในปริมาณมากทั้งนี้หลังจากที่มีการประกาศปิดออกมาก็ได้สร้างผลกระทบให้กับประชาชนเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นการหาซื้ออาหารการกินการ  

ซื้อสินค้าบริโภคอุปโภค รวมถึงการไปทำธุรกรรมต่างๆ ก็ไม่ได้รับความสะดวกสบาย ซึ่งบางที่ก็ปิดบริการไปเลยต้องรอจนกว่าจะมีการแจ้งให้เปิดบริการอีกครั้งหนึ่งถึงจะสามารถเปิดทำการได้ยกตัวอย่างเช่นศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือ อย่างของบริษัททรูมูพ หรือแม้แต่ ais ก็ปิดทำการส่งผลให้ลูกค้าที่อยากจะไปยกเลิกบริการก็ไม่สามารถทำได้

ซึ่งในการประกาศมีการแจ้งให้ห้างร้านต่างๆปิดบริการทุกร้านรวมถึงพวกร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือก็ได้รับผลกระทบต้องปิดทำการด้วยเช่นเดียวกันดังนั้นหลังจากที่ร้านโทรศัพท์มือถือปิดทำการส่งผลถึงประชาชนทั่วไปที่มีการใช้งานโทรศัพท์มือถือแล้วเกิดปัญหามือถือขัดข้องทำให้ไม่สามารถที่จะไปหาที่ซ่อมมือถือได้ซึ่งผลกระทบนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก

เพราะร้านมือถือปิดบริการซ่อมได้ก็ซ่อมไม่ได้ซื้อใหม่ก็ไม่มีที่ซื้อดังนั้นทางปลัดกระทรวงมหาดไทยจึงได้มีการประสานงานไปทางผู้ว่าราชการจังหวัดของทุกจังหวัดทั่วประเทศไทยสั่งให้เปิดศูนย์บริการซ่อมโทรศัพท์มือถือขึ้นมาในห้างสรรพสินค้าในช่วงนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในการที่จะหาที่ซ่อมโทรศัพท์มือถือ 

   ซึ่งปัญหาการซ่อมโทรศัพท์มือถือมิได้นี้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมากจึงทำให้มีประชาชนหลายรายได้มีการเรียกร้องให้มีการเปิดร้านโทรศัพท์มือถือเพราะบางครั้งมือถือเสียหรือซิมการ์ดเสียประชาชนไม่สามารถที่จะไปหาศูนย์บริการที่ไหนในการซ่อมได้ 

ทั้งนี้ ถึงแม้จะมีการประกาศออกมาว่าให้ร้านโทรศัพท์มือถือเปิดให้บริการได้แต่ก็ไม่แน่ว่าจะมีร้านไหนเปิดบริการบ้างหรือไม่เนื่องจากว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ค่อยเข้าไปใช้บริการโทรศัพท์สักตรงไหนหากว่ามือถือไม่มีปัญหาซึ่งอาจจะทำให้ลูกค้าน้อยและทางร้านอาจจะเห็นว่าไม่คุ้มค่ากับการที่ต้องมาเปิดร้านโดยทั้งนี้อาจจะต้องดูว่ามีศูนย์บริการไหนที่เปิดให้บริการบ้างรวมถึงมีห้างสรรพสินค้าห้างไหนที่จะประสานงานให้กับร้านมือถือมาเปิดบริการได้  

   อาจกล่าวได้ว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่ามีผลกระทบเป็นวงกว้างกับทุกสายอาชีพและประชาชนทุกคนซึ่งพวกเราควรจะต้องรีบช่วยกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ไม่เช่นนั้นทางรัฐบาลอาจจะมีมาตรการที่เข้มงวดมากกว่านี้จะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนมากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ก็ได้ 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  bk8

คนแก่เมามาร้านนวดเอาปืนจ่อหัวเพื่อนขู่ฆ่า

คนแก่เมามาร้านนวดเอาปืนจ่อหัวเพื่อนขู่ฆ่าเพียงแค่เพื่อนนวดหมอคนที่นวดประจำ

มีลุงคนหนึ่งซึ่งแกเพิ่งดื่มเหล้าและเดินทางมาที่ร้านนวดแห่งหนึ่งหลังจากนั้นแกก็เข้ามาที่ร้านนวดและเห็นว่าหมอนวดที่แกนวดเป็นประจำนั้นกำลังนวดให้ลูกค้าคนอื่นอยู่ด้วยความเมาแกจึงโมโหและเอาปืนจ่อไปที่หัวของเด็กที่กำลังนวดอยู่และบอกว่ามึงแย่งเด็กกูทำไมซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ทำให้คนในร้านทั้งหมดตกใจเป็นอย่างมาก หานักข่าวได้ไปสัมภาษณ์คุณแก้วเจ้าของร้านต้องถามคุณแกบอกว่าตั้งแต่เกิดมาและตั้งแต่ที่เธอเปิดร้านนวดนี้เธอยอมรับว่าเธอเคยเห็นลุงคนนี้มาใช้บริการบ่อยมาก

แต่เธอไม่เห็นคุณลุงคนไหนที่เคยถือปืนและลากปืนเข้ามาในร้านแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้ง ฉันตอนที่คุณลุงเข้ามาที่ร้านนั้นคือในช่วงเวลาตอน 01:00 นพอดีและลุงคนนี้เป็นคนที่ใช้บริการของร้านนี้เมื่อไม่นานมานี้เองซึ่งเวลาคุณลุงคนนี้มาที่ร้านนี้ก็มักจะให้สาวนวดที่หน้าตาสวยคนหนึ่งมานวดให้เป็นประจำซึ่งมีช่วงเวลาที่แกมานั้น

สาวนวดก็ไม่ทำงานให้ใครอยู่ซึ่งก็นั่งพักอยู่ด้านหลังนั้นซึ่งแค่เดินเข้ามาก็เห็นเลยว่ามีพนักงานคนไหนนั่งพักอยู่บ้างและในตอนแรกเมื่อคุณลุงเห็นผู้หญิงคนนั้นคุณลุงก็เรียกผู้หญิงคนนั้นประมาณว่าเจี๊ยบไหนมานั่งกินเหล้าด้วยกันซิสักพักหนึ่งเจี๊ยบก็บอกว่าขอไปเข้าห้องน้ำก่อนจากนั้นคุณลุงก็รอเจี๊ยบแต่ในครั้งนี้เจี๊ยบไปเข้าห้องน้ำนานมากและคุณลุงเห็นว่ามีผู้ชายหนุ่มสองคนเดินออกมาจากห้องน้ำคคิดว่าพวกเขาแอบไปทำอะไรกันในห้องน้ำแต่คุณลุงคนนั้นกลับเข้าไปหาเด็กแล้วเอาปืนขู่หลังจากนั้นพวกวัยรุ่น 2 คนก็กลัวปืนได้วิ่งหนีไปหลังจากที่คนที่ลุงจะยิงหนีไปลุงก็เลยตัดสินใจหนีขับรถฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงกลับบ้านทันที

คุณลุงคนนี้เรียกน้องเจี๊ยบไปดื่มเหล้าด้วยและในตอนแรกคุณลุงคิดว่าน้องเจี๊ยบไปทำอะไรกับผู้ชาย 2 คนนั้นในห้องคุณลุงคิดว่าเจี๊ยบอาจจะเตรียมตัวหนีไปกับผู้ชาย 2 คนนั้นตอนที่ลุงเมาก็ได้ลุงเล็กโกรธและคิดว่าพวกเขายังคนนวดของลุงไปแต่พอตำรวจจะจับตัวลุงก็พูดไปตามความจริงและลงก็ยอมมอบตัวแต่โดยดี

ร้านน้องเจี๊ยบก็ได้มาบอกกับคุณลุงที่สำนักงานตำรวจว่าเธอไม่ได้ไปกับผู้ชายคนนั้นและไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายคนนั้นในห้องน้ำที่เธอบอกว่าไปห้องน้ำนั้นจริงๆแล้วเธอจะเซอร์ไพรส์คือการไปหยิบเล่าให้กับคุณลุงและตั้งใจจะผสมเหล้าแบบที่คุณลุงชอบแต่ไม่คิดว่าแค่ว่าแค่หายไปเพราะผสมเหล้าให้คุณลุงนั้นก็ทำให้คุณลุงเกือบยิงคนตายที่ร้านของเธอที่เธอทำงานให้หลังจากที่มีข่าวที่เกิดขึ้นคุณแก้วได้แจ้งกับนักข่าวเราด้วยว่าเธอนั้นกดและติดสติ๊กเกอร์ไว้หน้าร้านอยู่แล้ว

ว่าห้ามเด็กต่ำกว่า 18 ปีเข้าร้านและห้ามพกอาวุธเข้าร้านเธอไม่คิดว่าคุณลุงจะทำอย่างนี้และเคอรี่ฝากข้อความถึงคุณลุงไว้ว่าถ้าจะกลับมาใช้บริการใหม่ให้เปลี่ยนนิสัยใหม่ซะไม่งั้นทางร้านจะไม่ต้อนรับคุณลุงเนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกค้า

ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯชี้แจงคำสั่งร้านขายอาหาร

ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯชี้แจงคำสั่งร้านขายอาหารเปิดขายได้แต่ให้ซื้อกลับบ้านเท่านั้นห้ามนั่งกินที่ร้าน

      มีที่เมื่อวันที่ 21 เดือนมีนาคมปีพ.ศ. 2563  ท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพฯได้ออกมาประกาศให้ประชาชนในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลทราบว่าจะมีการปิดห้างสรรพสินค้ารวมถึงสถานบันเทิงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆและที่สำคัญตลาดและร้านอาหารก็จะถูกปิดเป็นการชั่วคราวด้วยเพื่อเป็นการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่านั้น 

วันนี้ทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่ายังมีการเปิดให้บริการตามปกติบางแห่งเช่นในห้างสรรพสินค้าก็จะเปิดให้บริการของกลุ่มธนาคารรวมถึง จุดที่ขายอาหารสดก็ยังเปิดให้บริการตามปกติได้ส่วนร้านค้าที่ขายเป็นอาหารไม่ว่าจะเป็นร้านแผงลอยหรือเปิดเป็นร้านขายอาหารเองที่บ้านหรือจะเป็นพวกรถเข็นจะต้องมีการเปิดขายได้เฉพาะการซื้อแล้วนำกลับไปทานที่บ้านเท่านั้นไม่อนุญาตให้ร้านค้าต่างๆเปิดขายแล้วให้ลูกค้านั่งกินภายในร้านได้

และสำหรับหากร้านไหนที่ต้องการอยากจะให้ลูกค้านั่งกินอาหารภายในร้านร้านนั้นจะต้องมีการเปิดสถานที่ในการนั่งทานอาหารเป็นแบบโล่งรวมถึงจะต้องมีการจัดโต๊ะให้เว้นห่างกันโต๊ะละ 1 เมตรเพื่อที่คนที่กินจะได้ไม่นั่งอยู่ใกล้กันมากเกินไปเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

         จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าที่นับวันยิ่งมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆหลายฝ่ายจึงได้มีการประชุมและหารือกันโดยผลสรุปก็คือในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลนั้นในช่วงนี้จะมีการปิดการให้บริการสถานที่ต่างๆที่เห็นแล้วว่าจะเป็นแหล่งที่ประชาชนจะไปรวมตัวกันมากๆไม่ว่าจะเป็นสถานบันเทิง  โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารเป็นต้นซึ่งข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นนี้จะต้องปิดทำการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 22 เดือนมีนาคมแล้ว

จะปิดยาวไปจนถึงวันที่ 12 เดือนเมษายนปีพศ 2563 แล้วถึงจะมาดูอีกครั้งหนึ่งว่าในช่วงเวลาดังกล่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสามารถควบคุมได้แล้วหรือไม่แต่ถ้าหากยังพบปัญหาการแพร่ระบาดสูงอย่างต่อเนื่องก็อาจจะต้องมีมาตรการอื่นออกมาแก้ไขต่อไปทั้งนี้เหตุผลที่ต้องการปิดสถานที่ต่างๆไม่ให้ประชาชนไปรวมตัวกันมากนักก็เพื่อลดความเสี่ยงที่จะนำโรคไปติดต่อกันซึ่งหลังจากนี้ต้องดูว่ามาตรการนี้จะสามารถลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Corona ได้

หรือไม่และที่สำคัญประชาชนแต่ละคนให้ความร่วมมือมากแค่ไหนในการที่จะช่วยกันลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดเชื้อโรคในครั้งนี้  ก็มีหลายคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปิดสถานที่ดังกล่าวเหล่านี้ว่าจะส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของอาหารการกินแต่เท่าที่จะดูจากข้อมูลเบื้องต้นแล้วก็ยังมีการเปิดให้ขายของได้ตามปกติเพียงแต่ว่างดในเรื่องของการไปทานอาหารที่ร้านเพราะฉะนั้นก็ไม่น่าจะเดือดร้อนกับประชาชนมากนักในเรื่องการหาของกินคงต้องรอดูกันต่อไปว่าหลังจากที่มีการปิดสถานที่บางแห่งแล้วผลของการแพร่ระบาดลดลงหรือไม่

เพื่อนบ้านทะเลาะกันอีกฝ่ายเปิดกระโปรงโชว์ของลับ 

มาดูเหตุการณ์เพื่อนบ้านทะเลาะกันซึ่งมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำบ่อยครั้ง ล่าสุดเกิดจากบ้านที่อยู่ติดกันบ้านหลังนึงเปิดเพลงเสียงดังทำให้บ้านฝั่งตรงข้ามเกิดความไม่พอใจจึงได้มีการอัดคลิปวีดีโอเก็บเอาไว้ แล้วคุณในขณะที่อัดคลิปอยู่นั้นบ้านที่เปิดเพลงเสียงดังได้ออกมาเห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีการอัดคลิปไว้จึงเกิดความไม่พอใจและเกิดการทะเลาะกันขึ้น

ทะเลาะกันได้สักพักต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันเข้าบ้านของตนเองแต่เข้าไปได้ไม่ถึง 10 นาทีบ้านที่เปิดเพลงเสียงดังก็เดินออกมาหน้าบ้านอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากยังเห็นว่าบ้านฝ่ายตรงข้ามยังมีการแอบถ่ายบ้านของตนเองอยู่ดังนั้นจึงเกิดความไม่พอใจและเกิดการทักทายกันขึ้นซึ่งบ้านที่เปิดเพลงเสียงดังตะโกนถามว่าอยากถ่ายนักใช่ไหมเดี๋ยวจะเปิดกระโปรงให้หลังจากนั้นบ้านที่เปิดเพลงเสียงดังก็ตัดสินใจเปิดกระโปรงของตัวเองโชว์ของลับโดยที่ไม่ได้ใส่กางเกง

ในให้คนที่ถ่ายคลิปได้เห็นหลังที่คลิปดังกล่าวมีการเผยแพร่ออกไปก็ทำให้นักข่าวได้ลงเข้าไปดูพื้นที่ ซึ่งนักข่าวได้ไปคุยกับคุณปฐมพัฒน์ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกับบ้านทั้งสองหลังโดยเขาได้เล่าว่าช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นช่วงเวลา 8:30 น. ซึ่งเป็นช่วงที่เขากำลังจะออกไปทำงานเขาเล่าว่าบ้านทั้งสองหลังเคยทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้อยู่แล้วซึ่งวันดังกล่าวบ้านที่ถ่ายคลิปถ่ายไปเพราะว่า ร้านที่เปิดเพลงเสียงดังนำรถมาจอดหน้าบ้านแล้วเปิดประตูรถเปิดเพลงเสียงดังมาก

ทำให้บ้านอีกหลังนึงไม่พอใจจึงได้มาถ่ายคลิปเอาไว้ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้คุณปฐมพัฒน์แจ้งว่าตัวเองเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อนักข่าวสอบถามว่าตามความคิดเห็นของนายปฐมพัฒน์แล้วใครผิดถามเพื่อนบ้านที่เป็นคนกลางก็บอกว่าก็ผิดทั้งคู่เพราะว่าฝั่งที่เปิดเพลงเสียงดังก็ทำเกินไปที่เปิดเพลงโดยไม่สนใจว่าบ้านอื่นจะรำคาญเสียงเพลงของตนเองเลย ในส่วนของบ้านที่ถ่ายคลิปเองก็มีความผิดที่ไปยั่วโมโหจนเขาตบะแตกต้องเปิดกระโปรงโชว์ของลับให้ดู

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้คุณป้าที่โดนถ่ายคลิปที่เปิดกระโปรงโชว์ได้เดินทางไปร้องศูนย์ดำรงธรรมเพื่อทำการเอาผิดกลับบ้านที่ถ่ายคลิปเพราะเนื่องจากว่าเมื่อมีการถ่ายคลิปแล้วยังมีการนำไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียทำให้ตนเองได้รับความอับอายเพราะคนทั่วประเทศเห็นตัวเองเปิดของลับกันทั้งประเทศแล้ว ซึ่งคุณป้าที่เปิดกระโปรงโชว์ของลับยืนยันว่าฝั่งที่ผิดคือฝั่งที่ถ่ายคลิปถ้าไม่ออกมาโวยวายตนเองก็ไม่ต้องมาเปิดกระโปรงโชว์และไม่ต้องไปเป็นที่อับอายของคนทั้งประเทศแบบนี้ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด 

ปารีณาไม่หวั่นติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ปารีณาไม่หวั่นติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ร่วมงานวันเกิด สส. ด้วยกัน

            จากกรณีที่ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกมาจากการเกี่ยวกับการรับมือของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โควิด-19 คู่มือประชาชนทุกคนไม่ให้ไปในพื้นที่ที่มีคนจำนวนมากรวมถึงขอความร่วมมือสถานบันเทิง  , สถานบริการ และ ผับให้ปิดกิจการชั่วคราวเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

จากการที่คนหมู่มากไปอยู่ในพื้นที่เดียวกัน รวมถึงท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา ยังได้ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนงดเว้นการจัดกิจกรรมต่างๆพี่จะมีผลทำให้ประชาชนมารวมกันอยู่หนาแน่นซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือประกาศการขอเลื่อนการจัดงานวันสงกรานต์ออกไปโดยยังไม่ได้กำหนดวันว่าจะสามารถจัดงานสงกรานต์ได้อีกครั้งเมื่อไหร่ 

ต่อมาในวันรุ่งขึ้นในช่วงค่ำได้มีการเผยแพร่ภาพการจัดเลี้ยงงานวันเกิดของ  สส. พรรคพลังประชารัฐโดยมีจำนวน สส. ของพรรคพลังประชารัฐเป็นจำนวนมากไปร่วมงานวันเกิดในครั้งนี้ หนึ่งในนั้นคือ นางสาวปารีณาหรือเอ๋  สส. ของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อนักข่าวลงไปขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับการไปร่วมงานในครั้งนี้ สส. ปารีณาได้ให้ข้อมูลว่าการที่นายกได้ออกมาพูดแถลงการณ์เป็นการแนะนำเท่านั้นแต่ยังไม่ได้เป็นการห้ามไม่ให้มีการจัดงานไม่ว่าจะเป็นงานศพ  , งานบวช หรืองานเลี้ยงวันเกิด

เพราะฉะนั้นทั้ง สส.ปารีณาเองแล้วก็พวกคนอื่นๆของพรรคพลังประชารัฐก็ไม่ได้ทำผิดกฎอะไรยังคงทำกิจกรรมภายใต้เงื่อนไขของรัฐบาลทุกอย่างและเมื่อไหร่ก็ตามที่ทางนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  มีการประกาศออกมาเมื่อไหร่ว่าห้ามจัดงานเลี้ยงวันเกิดตนเองและ สส. ของพรรคพลังประชารัฐทุกคนก็ยินดีที่จะทำตามกฎระเบียบที่ทางนายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกันแต่ ณ ตอนนี้ยังไม่ได้มีการออกกฎดังนั้น สส. ปารีณาและเพื่อนคนอื่นๆจึงไม่ได้ถือว่าทำผิดกฎแต่อย่างใด

          จากข้อความข่าวมีนักข่าวไปขอสัมภาษณ์ สส. ปารีณาในครั้งนี้ทำให้เราเห็นว่า รัฐบาลไม่ได้จริงจังกับการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเลยโดยดูจากสมาชิกของพรรครัฐบาลเองที่แม้นายกรัฐมนตรีจะออกมาขอความร่วมมือในการไม่ให้ทำกิจกรรมในคนหมู่มากแต่สมาชิกของรัฐบาลทุกคนก็ยังคงดำเนินกิจกรรมของตนเอง

โดยไม่สนใจที่จะทำตนเองให้เป็นแบบอย่างให้ประชาชนได้ดูกันดังนั้นหากประชาชนไม่ได้ให้ความร่วมมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสยังคงมีการจัดกิจกรรมโดยมีคนหลายคนมาร่วมกิจกรรมในพื้นที่เดียวกันตั้งรัฐบาลก็คงไม่สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าประชาชนไม่ให้ความร่วมมือก็ขนาดสมาชิกพรรคที่อยู่ฝ่ายเดียวกับรัฐบาลยังไม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้ประชาชนได้เลย 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  next88

ผู้คนเริ่มกักตุนอาหาร

ผู้คนเริ่มกักตุนอาหาร หลังเชื้อไวรัสโควิดระบาดมากขึ้น

             เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องและยังไม่มีทีท่าว่าจะสามารถระงับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได ดังจากที่เราได้เห็นข่าว ว่าทั้งดารา และคนในวงการไฮโซเริ่มติดเชื้อไวรัสชนิดนี้กันแล้ว และที่สำคัญไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็อันตรายแทบทุกพื้นที่เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคนที่ยืนอยู่ข้างเราเขามีเชื้อไวรัสชนิดนี้อยู่หรือไม่ หรือว่าคนทีติดเชื้อไวรัสก่อนหน้าเราเขาสัมผัสอะไรไว้หรือไม่

เพราะหากเมื่อเราไปสัมผัสต่อจากเขาเราก็สามารถติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ได้เช่นกัน ทำให้ประชาชนเริ่มที่จะตื่นกลัวกันมากขึ้นเพราะมองว่า การแพร่เชื้อไวรัสนั้นแพร่เชื้อให้กันนั้นง่ายมากเหลือเกิน และคนที่รู้ดีอยู่แล้วว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสมาจากที่อื่นก็ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากพอที่จะกักตัวเองไว้ให้ห่างไกลจากคนอื่น

แต่คนกลุ่มนี้กลับเห็นแก่ตัวด้วยการพาตัวเองเข้ามาในฝูงชนในจุดที่มีผู้คนพลุกพล่าน จนเกิดปัญหาการแพร่เชื้อให้คนอื่นโดยที่ไม่รู้ตัว อย่างเช่นเรื่องของดารา อย่างแมทธิว ดีน ที่เขาไปติดมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ และอย่างที่คนที่ไปดูมวยติดมาจากที่สนามมวย เพราะไปจับมือกับพวกนักมวย ทั้งที่ตัวเขาเองก็ป้องกันตัวเองอย่างดีด้วยการใส่หน้ากากอนามัยแต่ก็ยังพบปัญหาว่าตัวเองติดเชื้อไวรัส ดังนั้นเมื่อประชาชนไม่สามารถวางใจในตัวรัฐบาลได้ว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไรและเมื่อไหร่

ดังนั้นวิธีการกักตุนอาหารจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้  ตามรายงานข่าวพบว่าประชาชน เริ่มมีการซื้ออาหารแห้งกักตุนกันมากขึ้นอย่างล่าสุด ที่บิ๊กซี สาขา ลาดพร้าว ผู้คนเริ่มซื้อมาม่า ปลากระป๋อง ข้าวสารและอื่นอื่นอีกมาก จนต้องต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรอการจ่ายเงิน เพราะหลายคนเริ่มที่จะกักตุนสินค้าแล้ว เพราไม่ต้องการที่จะออกมาเดินตามห้างบ่อยเกินไป ซึ่งหลายคนเริ่มมองเห็นถึงความไม่ปลอดภัยในการเดินห้าง เพราะหากไม่กลัวติดเชื้อไวรัสก็ต้องมากลัวว่าคนจะมายิงกันตายในห้าง

ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการเก็บอาหารเอาไว้ก่อน ด้านนักข่าวชื่อดังก็ได้ออกมาเตือนสติประชาชนว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกักตุนอาหารเพราะ นี่เป็นแค่การแพร่ระบาดของไวรัสที่ไม่ได้ติดต่อกันง่ายง่าย เราต้องสัมผัสคนป่วยโดยตรงเท่านั้นถึงติด ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องเริ่งกักตุนอาหารเอาไว้กินก็ได้

 

สนับสนุนโดย  sagame

พบศพนิรนามที่เชียงรายถูกฆ่ายัดถัง 

 มีรายงานจากชาวบ้าน ของหมู่บ้านเทอดไทว่าพบศพชายไม่ทราบชื่อถูกทิ้งไว้ในถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรอยู่ในฝ่ายน้ำที่จังหวัดเชียงราย

  จากคำให้การของผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านเทอดไทได้ให้การว่าวันนี้ได้มีวัยรุ่นและชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้ไปเล่นน้ำที่หนองน้ำในหมู่บ้านในจังหวัดเชียงรายซึ่งหนองน้ำแห่งนี้อยู่ในช่วงน้ำแห้งจึงทำให้มองเห็นว่ามีทั้งน้ำมันลอยอยู่กลางแม่น้ำบรรดาวัยรุ่นและชาวบ้านจึงช่วยกันนำถังน้ำมันดังกล่าว ขึ้นมาจากหนองน้ำ

ซึ่งระหว่างนั้นก็สังเกตเห็นว่าตัวถังมีความเห็นอย่างผิดปกติจึงได้ช่วยกันเปิดตาทำออกมาดูหลังจากนั้นจึงได้พบว่ามีศพของชายไม่ทราบชื่อซึ่งจากการคาดเดาน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณหนึ่งสัปดาห์ถูกยัดอยู่ในถังน้ำมันดังกล่าวรวมถึงมีเสื้อผ้ายัดอยู่ในนั้นด้วยเบื้องต้นทางผู้ใหญ่บ้านเองได้สอบถามลูกบ้านแล้วพบว่าคนในหมู่บ้านไม่มีใครหายไปตอนนี้ได้ประสานงานไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อใช้เช็คว่ามีใครหายไปบ้างหรือมีใครไปแจ้งความคนหายไว้บ้าง

ตอนนี้อยู่ระหว่างการรอคำตอบอยู่แต่ทางผู้ใหญ่บ้านคาดการณ์ว่าสุขดังกล่าวน่าจะไม่ใช่คนในละแวกนี้ โดยทางผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านต่างก็คิดว่าศพดังกล่าวน่าจะถูกฆ่ามาจากที่อื่นแล้วจึงนำศพมาทิ้งที่นี่ส่วนหนองน้ำที่พบศพนั้นเป็นฝ่ายกันน้ำที่ชาวบ้านสร้างขึ้นมาเพื่อเอาไว้กักตุนน้ำเอาไว้ใช้ยามจำเป็นในหมู่บ้าน

ซึ่งวันนี้ทางวัยรุ่นและชาวบ้านต่างมาลงเล่นน้ำจับปลาจึงทำให้พบกับทั้งดังกล่าวอย่างไรก็ดีตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลแล้วอาจจะต้องรอผลการตรวจสอบและตามหาต่อไปว่าศพดังกล่าวคือใครเพื่อที่จะได้ตามจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ 

               ในสภาวะสถานการณ์ตอนนี้นอกจากจะต้องกลัวเชื้อโรคกลัวโรคไวรัสโควิช 19 แล้วยังจะต้องมากลัวเกี่ยวกับการฆาตกรรมอีกด้วยคนสมัยนี้จิตใจขอโหดร้ายมีเรื่องทะเลาะกันนิดหน่อยก็ต้องฆ่ากันซึ่งศพในครั้งนี้ตายมานานเป็นอาทิตย์แล้วอาจจะทำให้หาตัวคนร้ายได้ลำบากและที่สำคัญการถามหาว่าซับดังกล่าวเป็นใครมาจากไหนก็ค่อนข้างลำบากอีกด้วย      เพราะศพดังกล่าวไม่มีเอกสารอะไรบ่งบอกเลยว่าเป็นใครมาจากไหน

ดังนั้นการติดตามหาตัวจึงค่อนข้างยากลำบากสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนในการหาตัวคนร้ายหรือหาตัวว่าศพดังกล่าวเป็นใครมาจากไหนจึงจะสามารถติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษได้แต่เราก็สามารถมั่นใจได้เลยว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งใจที่จะทำงานแล้วต่อให้คดีนั้นยากเย็นแสนเข็ญยังไงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถคลี่คลายได้ทุกคดี

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  entaplay

บุกยิงหวังฆ่ายกครัว ตายรวม 4 ศพ

หนุ่มแค้นภรรยากีดกันไม่ให้เจอลูก บุกยิงหวังฆ่ายกครัว ตายรวม 4 ศพ

             เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานมีคนถูกยิงเสียชีวิตและให้มาติดตามจับกุมตัวคนร้าย เหตุเกิดที่จังหวัดกาญจนาบุรี ที่เกิดเห็นเป็นบ้านสวน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ ทางเจ้าของบ้านแจ้งว่าคนร้ายได้หลบหนีไปแล้วพร้อมกันนำตัวลูกสาววัย 5 ขวบไปด้วยเมื่อเจ้าหน้าที่ติดตามมาถึงทางด้านหลังบ้านพบรอยเลือดหยุดเป็นทาง ตรงไปทางห้องเก็บของยังไม่ได้ทันเข้าไปด้านในก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดเมื่อเข้าไปดูก็พบศพคนร้ายที่ก่อเหตุยิงศีรษะตัวเองเสียชีวิตคาที่ ข้างข้างกันมีศพเด็กหญิงอายุ 5 ขวบนอนอยู่ด้วย 

           เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามคนทีรอดชีวิตที่เหลือยู่ภายในบ้าน ได้ให้การว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนาย นิด อดีตลูกเขยของบ้านที่เกิดเหตุ โดยคืนวันเกิดเหตุนาย นิดได้แอบปีนเข้ามาทางห้องนอนของภรรยา ซึ่งนอนอยู่กับลูกสาวคนโตอายุ 12 ขวบ แล้วเกิดมีปากเสียงกันกรณีนายนิดต้องการนำลูกกลับไปอยู่ด้วย

ซึ่งในระหว่างที่ทะเลาะกันนายนิดได้นำปืนออกมาขู่จะยิงทำให้อดีตภรรยาและลูกวิ่งหนีมาที่ห้องข้างข้างที่เป็นห้องของน้องชาย ด้านนายนิดตามอดีตภรรยาออกมาแล้วมาเจอกับพ่อตา จึงได้ยิงพ่อตาเสียชีวิต เสร็จแล้วเจอกับแม่ยายและลูกสาววัย 5 ขวบจึงได้ยินแม่ยาย แต่ปืนไปถูกลูกสายวัย 5 ขวบได้รับบาดเจ็บนายนิด

จึงได้ยิงแม่ยายเสียชีวิตก่อนที่จะอุ้มลุกสาวออกมาจากบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงแล้วก็พบว่านายนิดฆ่าตัวตายซึ่งคาดว่า  น่าจะเกิดมาจากที่กระสุนไปโดนลูกสาววัย 5 ขวบแล้วหนูน้อยอาจจะเสียชีวิตระหว่างที่นายนิดพาออกมา พอเห็นว่าลูกสาวตายจึงทำให้นาย นิด รู้สึกผิดและเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป

จึงได้ก่อเหตุฆ่าตัวตายตามลูก ซึ่งคนในครอบครัวที่ตายได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า นายนิดและภรรยาเลิกกันนานแล้ว แต่นายนิดก็พยายามมาขอคืนดีตลอดและนายนิดมักจะคิดว่า ตากับยาย ที่นายนิดยิงเสียชีวิตนั้นเป็นคนที่คอยกีดกันไม่ให้นายนิดเจอกับลูก แต่แท้ที่จริงแล้ว เด็กเด็กไม่อยากกลับไปอยู่กับนายนิดเอง เพราะตอนที่พ่อกับแม่อยู่ด้วยกัน เด็กเด็กมักจะเห็นนายนิดตบตีแม่ตัวเองประจำ ทำให้เด็กเด็กไม่อยากกลับไปอยู่กับพ่อ ยืนยันได้ว่าไม่มีใครกีดกันนายนิดแน่นอน แต่นายนิดก็มาก่อเหตุฆ่าคนในบ้านตาย ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหหน้าที่ตำรวจจะหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

 

สนับสนุนโดย  nowbet