ปีนี้เป็นปีที่ใครหลายคนต่างร้องโอดครวญ เนื่องจากพิษทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของประเทศ บางบริษัทฯเลิกกิจการ หรือไม่ก็ลดต้นทุนเอาคนงานออกก็เยอะ สำหรับเราถือว่าโชคดีที่ยังมีงานทำ แม้ว่าเงินเดือนจะได้เท่าเดิมกับปีที่แล้วก็ตาม เราเลยไม่คิดมากเมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นๆชีวิตเรายังดีกว่าเค้าเยอะ
จากรายรับที่เท่าเดิมแต่ราคาข้าวของในท้องตลาดมีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้เรามานั่งคิดว่าเราจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทำยังไงให้รายจ่ายน้อยลง เพื่อแบ่งเงินมาเก็บไว้ในบัญชีธนาคารให้มากขึ้น เพื่อนๆคนไหนสนใจก็ลองเอาวิธีที่ว่านี้ของเราไปใช้ตามกันได้นะ
ห่อข้าวกลางวันไปกิน ลองคิดดูนะว่าที่ผ่านมาในหนึ่งวันเราเสียเงินค่าอาคารให้กับร้านขายข้าวไปเท่าไร เดี๋ยวนี้แค่ข้าวผัดกระเพราะหมูธรรมดาๆก็จานละ 35-40 บาทเข้าไปแล้ว แต่ถ้าเปลี่ยนเอาเงินไปซื้อหมูมาผัดเอง แล้วห่อไปกินที่ทำงาน คุณจะได้ผัดกระเพราที่จานใหญ่พอสมควร บางทีแบ่งกินได้ 2 มื้อด้วยซ้ำ ที่สำคัญรับประกันเรื่องความสะอาดและปลอดภัย ส่วนรสชาติคุณก็แค่ปรุงให้มันอร่อยถูกใจคุณก็พอ
เลิกกินกาแฟแพงๆ จริงๆแล้วที่เรากินกาแฟก็เพราะแก้ง่วงนอนตอนทำงาน เพราฉะนั้นไม่ว่ากาแฟจะราคาถูกหรือราคาแพงมันก็ให้สารคาเฟอีนเหมือนกัน คำนวนเอานะว่า ถ้าคุณกินกาแฟที่ราคาแก้วละ 55 หรือ 60 บาท เฉลี่ยในหนึ่งเดือน คุณจะเสียเงินไป 1,650 ถึง 1,800 บาท แต่ถ้าคุณเปลี่ยนมากินที่ราคาถูกลงหรือไม่ก็ชงกินเอง มันจะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้เยอะเลย
ไม่ใจอ่อนไปกินหมูกระทะ เวลาเพื่อนในออฟฟิตชวนคุณไปกินหมูกระทะตอนเลิกงานให้คุณปฏิเสธไม่ไป คุณรู้ตัวกันบ้างไหม ว่าหมูกระทะทำให้คุณสิ้นเปลืองเงินกันไปแล้วเท่าไร บางร้านตั้งราคาไว้ 99 บาท บ้าง 279 บาท บ้าง หรือจะกินแบบมีกุ้งมีปูก็ราคาอยู่ 359 บาท คิดง่ายๆ ถ้าคุณทำงานได้วันละ 500 บาท แล้วต้องมาเสียเงินกับการกินมื้อเย็นเพียงมื้อเดียวที่ราคาสูงขนาดนี้ ถามหน่อยสิ้นเดือนคุณจะเหลือเงินให้เก็บไหมเนี่ย ตัดใจไปเลย หันไปหาของกินที่มันราคาถูกและดีต่อสุขภาพของคุณดีกว่า ที่สำคัญไม่ต้องมานั่งรู้สึกผิด หรือกังวลเรื่องลดความอ้วนด้วย
อ่านจบแล้วเป็นยังไงกันบ้างคะ นี่แค่เฉพาะเรื่องกินเท่านั้นนะ ยังทำให้เราเหลือเงินในกระเป๋าได้เยอะมากขึ้นเลย โอกาสหน้าจะมีเรื่องอะไรมาฝากรบกวนเพื่อนๆติดตามกันนะคะ
สนับสนุนเรื่องราวโดย letou ฟรีเครดิต